top of page

สุขุมวิท คนพลัดถิ่น อาหารพลัดจาน


เมื่อไม่นานมานี้มีเหตุอันจะต้องพาตัวเองไปอยู่ในประเทศสุขุมวิท เรียกประเทศคงไม่ผิดอะไรนัก เพราะหลายวันที่ต้องมาอยู่ในโซนที่จัดได้ว่ามีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและอาหาร รวมถึงวิธีคิดที่สะท้อนมุมมองวิธีการเลือกซื้อสินค้าในย่านที่เราแทบจะไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศเลยก็ว่าได้ เพราะอาหารจากทั่วทุกมุมโลกมากองกันอยู่ที่ ‘สุขุมวิท’ แห่งนี้


จะว่าไปเดี๋ยวจะกลายเป็นมารีวิวร้านรวง หรือร้านอาหารในสุขุมวิท แต่เปล่าจ้ะ วันนี้เราอยากมาเล่าถึงวัฒนธรรมการเลือกซื้อสินค้าและการนำเข้ามาของวัตถุดิบจากหลากหลายประเทศ บางอย่างทั้งๆ ที่ในประเทศเราสามารถผลิตเองได้ด้วยซ้ำ แต่ชาวต่างชาติที่มาทำงาน มาเที่ยว หรือมาอยู่อาศัยที่นี่ กลับยอมเสียเงินสำหรับวัตถุดิบนำเข้า วัตถุดิบแช่แข็งเหล่านี้ ซึ่งสนนราคาอาจจะแพงกว่าหลายเท่าตัว


เราเริ่มต้นจากการได้รู้จักชาวญี่ปุ่นที่ติดตามสามีมาทำงานที่เมืองไทย ลูกๆ ของเธอต้องย้ายตามพ่อมาเรียนที่เมืองไทยอย่างต่ำ 6 ปี แน่นอนสำหรับวัฒนธรรมการกินอาหารของครอบครัวญี่ปุ่น สังเกตดีๆ ว่าจะไม่ค่อยทานอาหารนอกบ้านนัก ดังนั้น หลังจากสามีไปทำงาน ภรรยาส่งลูกเข้าโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย เราจะเห็นกลุ่มแม่บ้านญี่ปุ่น ที่อาจจะนัดกันหลังส่งลูกไปโรงเรียนแล้วเจอกันที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งถ้านับในสุขุมวิทจริงๆ แล้วมีแบรนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ตหลายแบรนด์เลยทีเดียว แต่แม่ๆ ชาวญี่ปุ่นส่วนมากจะเดินในซุปเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่น หรือร้านที่มีการนำเข้าสินค้าทั้งสด แห้ง แช่แข็งมาจากประเทศญี่ปุ่น อย่างที่เราจะพาไปดูวันนี้

Makotoya Thailand ร้านมาโคโตยะเป็นร้านจำหน่ายสินค้าแช่แข็ง วัตถุดิบ และเครื่องปรุง ต่างๆ นำเข้าจากญี่ปุ่น เปิดให้บริการมานานนับ 13 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารและแม่บ้านญี่ปุ่น ที่นี่มีทั้งปลา กุ้ง ปลาหมึก หอย ไส้กรอก เบคอน ซอส ถั่ว งา จากญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่เป็นของแช่แข็ง แต่ได้รับความสนใจจากแม่บ้านและร้านอาหารสัญชาติญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก อีกทั้งที่นี่ยังมีตู้แช่ผักและผลไม้สดด้วย ด้วยความที่แม่บ้านญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทยนิยมประกอบอาหารเกือบทุกวัน ดังนั้นการซื้อเครื่องปรุงไซส์จั้มโบ้ที่เป็นไซส์ที่ทำให้ราคาต่อหน่วยถูกลงจึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับแม่บ้านที่ต้องทำอาหารทุกวัน



Thonglor Nihon Ichiba ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ ตลาดนี้เป็นตลาดติดแอร์ เปิด 9.00-18.00 น. ช่วงเช้าเปิดให้พวกซื้อส่ง คนกินธรรมดาๆ เข้าได้ตั้งแต่ตอนเที่ยง มาที่นี่เหมือนเดินอยู่ในตลาดที่ญี่ปุ่นจริงๆ เพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่ก็มาจากญี่ปุ่น เดินแล้วก็เจอแต่คนญี่ปุ่น วัตถุดิบจะเน้นพวกเนื้อ อาหารทะเล และผักผลไม้ มีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยให้คำแนะนำ แน่นอนเราจะเห็นคนญี่ปุ่นเดินกันขวักไขว่ เพราะนอกจากเป็นเหมือนตลาดสดติดแอร์แล้ว สารมารถสั่งให้ประกอบอาหารทานที่นี่ และมีบริเวณให้ขึ้นไปทานที่ชั้น 2 ได้เลย ราคาอาหารสดของที่นี่มีขึ้นมีลงแปรผันตามการขนส่งและฤดูกาลของวัตถุดิบ ดังนั้นเราสังเกตดู ชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ที่นี่จะทานอาหารตามฤดูกาลของประเทศตัวเอง มีคำนวนวันการขนส่งมาอย่างดี เพื่อให้ระยะเวลาวัตถุดิบมาถึงที่ไทยสั้นที่สุด เพื่อคงความสดมากที่สุด


ฟูจิซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่น ที่เปิดในประเทศไทย รวบรวมอาหารสไตล์ญี่ปุ่น มี 4 สาขา

สาขา 1 อยู่ในซอยสุขุมวิท

สาขา 2 อยู่ที่ชั้น 1 อาคารซิตี้รีสอร์ท 39 ซอยสุขุมวิท 39

สาขา 3 (เอ็กซ์เพรส) อยู่ที่ชั้น 1 อาคารซิตี้รีสอร์ท สุขุมวิท 39

สาขา 4 อยู่ที่ชั้น 1 อาคารซิตี้รีสอร์ท สุขุมวิท 49

จริงๆ ฟูจิซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่น มีสินค้าของไทยขายรวมๆ กันกับสินค้าญี่ปุ่นนะ แต่สัดส่วนถือว่าน้อยกว่าสินค้านำเข้าที่มีทั้งสินค้าแช่แข็งประเภทเนื้อสัตว์ ของว่าง และขนม วัตถุดิบอินทรีย์คุณภาพสูงหลายหลายยี่ห้อของไทยก็ได้เข้าไปวางขายที่นี่และขายได้ดีไม่แพ้วัตถุดิบนำเข้ามาเลย เช่น ผักสด ผลไม้ ไข่ หรือแม้แต่เนื้อสัตว์ ที่นี่นอกจากจะมีสินค้าที่คุณแม่บ้านสามารถซื้อไปทำทานเองแล้ว อีกด้านยังมีบริการอาหารพร้อมทานทั้งอาหารญี่ปุ่นหรือแม้แต่กับข้าวพร้อมอุ่นทานแบบไทยๆ น่าจะไว้รองรับ คนโสดที่อยู่อาศัยในคอนโดที่ไม่มีพื้นที่ประกอบอาหาร



ยกตัวอย่างมา 3 ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่แทบจะไม่ได้ยินภาษาไทยเลยเวลาเข้าไป ทำให้เราเองก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าพวกเขามีคุณภาพชีวิตอย่างไรกันหนอ เหมือนจะดีนะที่ทำอาหารทานเองมั่นใจว่าปลอดภัยจากสารกันบูด และผงชูรส แต่อีกใจก็แอบห่วงลูกๆ ที่ต้องทานเนื้อสัตว์แช่แข็งซึ่งเราก็ไม่รู้ขั้นตอนระหว่างการขนส่ง อาจจะต้องผ่านกรรมวิธีอะไรบ้าง เราเลยถามชาวญี่ปุ่นที่พอจะให้ข้อมูลกับเราได้ ว่าทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจเลือกทานอาหารที่ส่งมาจากประเทศตนเอง ซึ่งคำตอบที่ได้เพราะนอกจากเป็นรสชาติที่คุ้นเคยแล้ว เขาเคยได้ยินมาว่าเนื้อสัตว์ที่ไทยใช้ยาปฏิชีวนะมาก และเนื้อสัตว์ในประเทศไทยมีกลิ่นแปลกๆ เขาเลือกเชื่อมาตรฐานการส่งออกของญี่ปุ่นมากกว่า การเชื่อใจวัตถุดิบออร์แกนิคในไทย ฟังแล้วเศร้า แต่เขาก็บอกว่าแต่ตอนนี้ไก่ก็น่าจะโอเคมากขึ้น และเกษตรกรไทยก็พยายามที่จะพัฒนาด้านความปลอดภัยมากขึ้น คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ก็กลับไปทำการเกษตรปลอดภัยมากขึ้น น่าจะมีแนวโน้มที่ดีนะ


เราเองในฐานะที่เป็นคนไทย และอยากมีส่วนช่วยผลักดัน อยากให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์จริงๆ ก็คือเกษตรไทยที่ตั้งใจพัฒนาวัตถุดิบปลอดภัยขายได้จริงๆ และเด็กๆ ทั้งในไทย และเด็กที่ต้องตามพ่อแม่มาอยู่ที่ไทย ได้รับคุณค่าสารอาหาร ไม่ต้องทานอาหารแช่แข็งเพียงอย่างเดียว ได้ทานอาหารที่หลากหลายตามฤดูกาล และคุณค่าครบปลอดภัยค่ะ



 


ผู้เขียน

ณัฐพร ปิ่นเพ็ชร์

ครีเอทีฟ / นักเล่าเรื่อง



23 views

Comments


bottom of page