หลายปีแล้วที่เรามีโอกาสได้พบเจอเชฟหลายๆ ท่านที่เสาะแสวงหาวัตถุดิบชั้นเลิศมาสร้างสรรค์เมนูความสุขของเชฟ กับการได้ท้าทายศักยภาพ ด้านรสชาติของวัตถุดิบ เหมือนได้ทดลองในแล็ปเคมีเพื่อ หาสูตรอาหารในแบบของตัวเอง เชฟหลากหลายท่านต่างมีแนวคิดคล้ายๆกันอยู่หลายเรื่อง นั่นคือการเคารพในรสชาติของวัตถุดิบ และความปลอดดภัยสูงสุดของผู้กิน
บทความนี้ เกิดจากการนั่งคุยกับอาจารย์ของเราที่สอนการทำขนมหวานและขนมปังชาวญี่ปุ่น ว่าตกใจมากตอนมาเที่ยวที่เมืองไทย ทำไมต้องแยกระหว่างวัตุดิบออร์แกนิกกับไม่ออร์แกนิก ทั้งๆที่อยู่ในตู้แช่เดียวกัน คงจะดีถ้าวันหนึ่งทั้งโลกลบคำว่าออร์แกนิกออกไป ไม่แบ่งแยกวัตถุดิบ เพราะทุกอย่างที่ขายคือออร์แกนิกทั้งหมด ได้ฟังครูพูดก็มีสะดุดใจเล็กน้อย เลยอยากชวนไปดู ภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงออร์แกนิกในหลายๆ ประเทศกันค่ะ
Wholefood : ซุปเปอร์มาร์เก็ตออร์แกนิกชั้นนำในอเมริกา ปัจจุบันมีถึง 310 สาขา แต่ที่เราได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมคือสาขาซานฟรานซิสโก สาขานี้เรียกได้ว่าเราแทบจะเป็นชาวเอเชียคนเดียวในช่วงเวลาที่เราไปเลยก็ว่าได้ ที่นี่มีการแยกโซนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความน่ารักตรงที่มีการแบ่งโซน Local farmer คือเกษตรกรในซานฟรานซิสโกอยู่ด้านนี้จ้า เพื่อให้ได้ของสดใหม่ทุกวัน โซนนี้ผักท้องถิ่นเปลี่ยนหน้าตาการวางบ่อยมากเพราะบางวันก็ใช่ว่าจะมีทุกชนิด ที่นี่ 90% เป็นออร์แกนิก ที่เหลือพวกยาหรือของใช้อาจจะไม่ได้ทั้งหมด เขาเน้นการมีสินค้าหลากหลายเพื่อเป็น One stop service มาที่เดียวทั้งของกินของใช้ ดังนั้นเราถือว่า 90% ที่มีมันสบายใจได้แล้วล่ะสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองที่เร่งรีบอย่างซานฟรานซิสโก
Organic is ordinary : Fukuoka Japan ร้าน Organic is ordinary อยู่ชั้น 1 อาคาร HAKATA RIVERAIN MALL HAKATA RIVERAIN MALL เป็นร้าน Select shop ที่ขายของจำพวกออร์แกนิก เราขอเรียกร้านนี้ว่าเป็นร้านที่นั่งแล้วสบายใจ เพราะเพียงสั่งเครื่อดื่มสุขภาพที่ดูสดชื่นแล้ว สามารถเอางานไปนั่งทำได้ นอกจากอาหารและขนมที่ใช้วัตถุดิบที่ได้รับการรับรองว่าเป็นออร์แกนิกแล้ว ที่นี่ยังมีของใช้หลากหลายแบรนด์ที่ทางร้านล้วนคัดสรรมาแล้วว่าปลอดภัย ไปยันเครื่องสำอางค์ นอกจากนั้นที่นี่ยังมีหลากหลายการบริการด้วยนะ ตอนนี้ Organic is ordinary มีบริการทำผม ทั้งดัดทำสีจากสีธรรมชาติ มีการรับรองว่าเป็นสีที่ออร์แกนิกด้วย
แล้วในประเทศไทยล่ะ... ตอนนี้หลายๆ แบรนด์เริ่มให้ความสนใจกับการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ แม้จะไม่ได้ Mass เท่าไหร่นัก แต่สำหรับในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ๆ การหาวัตถุดิบ หรือสินค้าปอดภัยก็ไม่ได้ยากเย็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ล่าสุด 11-14 ก.ค. 62 เราได้มีโอกาสไปเดินดูงานออร์แกนิกอีเวนท์ของภูมิภาค Southeast Asia "BIOFACH Southeast Asia 2019 และ Natural Expo Southeast Asia 2019” ที่จัดขึ้นที่เมืองทองธานี ร้านค้าและแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เราว่าเป็นสัญญาณที่ดีนะ มีทั้งเกษตกรที่มาจากหลากหลายจังหวัด มีนักธุรกิจยุคใหม่ที่สนใจมาลงทุนในธุรกิจการแปรรูปสินค้าปลอดภัย หลายแบรนด์เริ่มมีการใช้งานออกแบบเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆ ให้กับสินค้าปลอดภัย มีทั้งกิจกรรมเสวนา การจัดการอบรมให้ความรู้ ซึ่งเราว่าเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น หรืออเมริกา แม้เราอาจจะไม่ได้ดูทันสมัย ดูล้ำในไอเดียสุดโต่ง แต่เสน่ห์แบบไทยๆ ที่ผสมผสานอยู่มันแอบมีความน่ารัก จริงใจ เข้าถึงง่ายอยู่เหมือนกัน
ส่วนตัวเราว่าการขับเคลื่อนในทางวัตถุดิบอินทรีย์มีความหวัง และตลาดนี้โตได้อีกมาก ทั้ง 2 ประเทศที่เราเล่าถึงจากการไปสัมผัส ยกตัวอย่าง มีจุดร่วมอย่างหนึ่ง ที่เหมือนกัน คือเขาทำงานกันเป็นทีมเวิร์ค คนปลูกใส่ใจวัตถุดิบ คนกลางทำหน้าที่สร้างคุณค่า เพิ่มมูลค่าทั้งจากการสื่อสาร การออกแบบ คนซื้อมีความเข้าใจ และใส่ใจกับรายละเอียด และภาครัฐภาคเอกชนทำงานร่วมกัน เติมเต็มในส่วนที่ขาดหาย ช่วยในสิ่งที่ถนัด เราจะเห็นภาคสาธารณะสุข ทำงานกับภาคการเกษตรและพาณิชย์ในหลายๆ ประเทศ
เพื่อให้คุณภาพสินค้ามีมาตรฐาน ปลอดภัย และขายได้.. ตอนนี้เราว่าประเทศไทยกำลังทำอยู่ โดยมีประชาชนเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการเคลื่อนไหว เรื่องวัตถุปลอดภัยและยั่งยืนนะ
ผู้เขียน
ณัฐพร ปิ่นเพ็ชร์
ครีเอทีฟ / นักเล่าเรื่อง
Comments