บนพื้นที่ 42 ไร่ ธรรมดาๆ แห่งนี้ ใครจะรู้ว่า ชายวัย 30 ปี ผู้หันหลังให้กับชีวิตเมืองที่วุ่นวาย และ อนาคตที่น่าจะไปได้สวยกับอาชีพโบรกเกอร์ มุ่งหน้ากลับบ้านใช้ชีวิตหลังรั้วไม้ที่เขาเรียกมันว่าชีวิต
‘ธรรมดาๆ’ ที่แสนน่าอิจฉาที่สุดคนหนึ่งกับ ‘ธรรมดาการ์เด้น’ สวนเรียบๆ แห่งนี้มีเรื่องราวให้คุณได้
แวะอ่านและสร้างแรงบันดาลใจในความเรียบง่าย
โอม - อัครเดช ม่วงไม้ ตัดสินใจเริ่มทำเกษตรกรรมอย่างจริงจัง คือหลังจากปลูกสวนผักไฮโดรโปนิกส์ได้ 2 ปี ควบคู่กับการเป็นโบรกเกอร์ จากงานที่ทำเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากงานประจำ ที่ได้กลับบ้านที่คลอง 5 สู่การกลับบ้านครั้งสุดท้าย เพื่อใช้เวลาทั้งหมดกับครอบครัว และการสร้าง ‘ธรรมดาการ์เด้น’ สวนเกษตรอินทรีย์ ที่ใช้หล่อเลี้ยงสมาชิกในครอบครัว และลูกค้าที่โอมเรียกพวกเขาว่าสมาชิกอีก 40 ครอบครัวในเมือง ที่เข้าใจถึงวัตถุดิบปลอดภัย และความตั้งใจของโอม
โอมเล่าให้เราฟังว่า ตอนที่โอมยังเด็กๆ ครอบครัวชาวนาของโอมก็เหมือนกับครอบครัวเกษตรกรคนอื่นๆ ที่ใช้สารเคมีเร่งผลผลิตเพื่อให้ได้สินค้าปริมาณมาก สร้างรายได้จุนเจือครอบครัว กระทั่งวันที่ สมาชิกครอบครัวแต่ละคนโตขึ้น และแยกย้ายไปทำงานในเมืองหลวง พื้นที่แห่งนี้ไม่ได้ถูกพัฒนา
ความต้องการที่จะกลับสู่วิถีชีวิตธรรมดาๆ ทำให้โอมเริ่มศึกษาเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง และลงมือ ปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้ให้ฟื้นคืนอีกครั้ง โอมต้องใช้เวลา 3-5 ปี ในการขจัดสารเคมีออกจากดิน เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ไม่ถูกปนเปื้อน จากเคยผลิตข้าวเพื่อส่งโรงสีได้ 28 ตันต่อครั้ง การปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี แม้จะทำให้เหลือผลผลิตเพียง 10 ตัน แต่มันเป็น 10 ตัน คุณภาพที่สามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่าเดิมและเป็น ข้าวที่ครอบครัวสามารถบริโภคด้วยความมั่นใจในความปลอดภัย
ทุกวันนี้โอมไม่ได้วางขายผลผลิตผ่านช่องทางพ่อค้าคนกลาง เพราะด้วยความที่เทคโนโลยีเข้าถึงทุกคน
โอมเองก็ได้เอา Social media มาเป็นผู้ช่วยในการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ทุกสัปดาห์สมาชิกทั้ง 40
ครอบครัวจะทราบรายการผลผลิตที่จะพร้อมเก็บสดๆ และทำเป็น Listรายการให้เพื่อนสมาชิกทราบถึงปริมาณที่มีในแต่ละรอบ และรอบเวลาที่จัดส่ง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โอมบอกกับเราว่า แค่นี้เขาก็รู้สึกโอเคมากๆ ไม่ได้อยากเพิ่มปริมาณสมาชิก แค่ขอดูแลทั้ง 40 ครอบครัวนี้ให้ดีที่สุดก่อน เพื่อเขาเองจะได้มีเวลาส่วนตัวและสามารถดูแลครอบครัวตัวเองได้แบบ ‘พอดีๆ’
โอมยังฝากถึงเกษตรกรว่า การทำเกษตรแบบอินทรีย์จริงๆ แล้วทำให้ได้ราคาดีและมีความปลอดภัย
เพราะเดี๋ยวนี้ผู้บริโภคมีความรู้มากขึ้นในด้านวัตุดิบ ทำให้สินค้าอินทรีย์เป็นที่ต้องการของตลาด และ มีแนวโน้มที่จะโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามองในฐานะของโบรกเกอร์ การใช้ปุ๋ยยาหนักๆ ‘ดินพัง’ เกินสิบปีพื้นที่ก็เสียหมด ระยะยาวใช้ไม่ได้ แต่อินทรีย์ ‘ดินดี’ อยู่ได้ยาว คุ้มค่าในระยะยาว ถึงปริมาณการผลิตจะน้อยลง แต่ความคุ้มค่ามันเพิ่มขึ้น แค่เกษตรกรต้องใจแข็งผ่านช่วง 3 ปีแรกช่วงปรับตัวนิดหน่อยเอง...
เพราะความคิดธรรมดาของผู้ชายคนนี้ ที่ทำเรื่องธรรมดาในชีวิตให้กลายเป็นการใช้ชีวิตคุณภาพ
คิดบนพื้นฐานของการเคารพตัวเอง เคารพเวลา เคารพลูกค้า... มันจึงเป็นชีวิตธรรมดาๆ ที่น่ารัก
และมีความสุขที่สุด
ผู้เขียน
ณัฐพร ปิ่นเพ็ชร์
ครีเอทีฟ / นักเล่าเรื่อง
ผู้ให้สัมภาษณ์
โอม - อัครเดช ม่วงไม้ ธรรมดาการ์เด้น
Comments